
รีวิวลดน้ำหนัก อดีตสาวอ้วนที่เคยหนักเกือบพิชิต 100 กิโลกรัม พยายามลดน้ำหนักด้วยตัวเอง จนตอนนี้เหลือเพียง 57 กิโลกรัมเท่านั้น เธอจะทำได้อย่างไร มาดูกันเลย อดีตสาวอ้วนตัวดำ ที่ใครๆ ก็ตั้งฉายาให้เธอว่า ช้าง พะยูน ผีเสื้อสมุทร และอีกสารพัด แชร์ประสบการณ์เปลี่ยนแปลงชีวิตด้วยการลดความอ้วนด้วยวิธีของตัวเอง ซึ่งก็เป็นวิธีเบสิกที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ เพียงแค่ควบคุมอาหาร งดแป้ง และออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กัน ทั้งนี้ถึงแม้จะใช้เวลานานหน่อย แต่ความตั้งใจจริงของเธอก็สามารถทำให้การลดน้ำหนักของเธอครั้งนี้เปลี่ยนชีวิตของเธอไปได้ตลอดกาล เพราะจากที่เคยเป็นสาวอ้วนเกือบพิชิตน้ำหนัก 100 กิโลกรัมมาแล้ว ตอนนี้เธอกลายเป็นเพียงแค่สาวอวบที่หนักเพียง 57 กิโลกรัมเท่านั้น และสิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นการพยายามของเธอมันทำให้เธอรักตัวเอง และมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นอีกด้วย และสำหรับใครที่อยากจะเปลี่ยนชีวิตได้เหมือนกับเธอคนนี้บ้าง ลองมาค้นหาแรงบันดาลใจและนำวิธีลดน้ำหนักแบบฉบับคุณ 2875632 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมไปลองปรับใช้กันดูสิคะ เพราะเธอได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าทำได้ คุณเองก็สามารถทำได้เหมือนเธอเช่นกัน สู้ๆ ไปดูกันเลย สวัสดีค่ะ ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อ กัญ ค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ปี 3 ค่ะ กัญอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนักของตัวเองให้ทุกคนได้อ่านกัน เผื่ออาจจะช่วยเป็นแรงผลักดันเล็กๆ น้อยๆ ให้กับคนเจ้าเนื้อ อวบอั๋น อวบระยะสุดท้ายที่มีความมุ่งมั่นจะลดน้ำหนัก ฮึบๆ

จุดเริ่มต้นลดน้ำหนัก ตอนนั้นกัญหนักสุดๆ ประมาณ 97 กิโลกรัม ส่วนตอนนี้หนักประมาณ 56-57 กิโลกรัม รวม ๆ แล้วลดลงไปประมาณ 40 กิโลกรัมกว่าๆ ได้ ซึ่งกัญเป็นคนที่ไม่สูงค่ะ สูงแค่ 155 เซนติเมตร หรือเตี้ยนั่นเอง เลยทำให้ช่วงที่อ้วนจะดูตันกว่าชาวบ้านชาวช่องมาก
กัญลองวิธีลดน้ำหนักมาหลากหลายรูปแบบเลยค่ะ ทั้งยาบ้าง มีปรึกษาหมอบ้าง แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นใช้ความอดทน ความพยายามด้วยตัวเองอยู่ดี อดทนเข้าไว้ ใช้หลักควบคุมอาหาร เน้นแต่พอดี อย่าอยู่เพื่อกินค่ะ เพราะตั้งแต่เด็กกัญเอาแต่กินและกิน ยายขายข้าวแกงก็กิน ๆๆๆ ที่บ้านมีสมาชิกหลายคนค่ะ ใครกลับมาจากที่ทำงานก็กินกับเขาไปหมด กลับมาสี่รอบ ก็กินมันสี่รอบ (ที่บ้านเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ตอนนั้นไม่รู้เรื่องค่ะ สงสัยรู้แต่เรื่องกิน เวลาไปเที่ยวไหนจะเน้นที่กินไว้ก่อนเลย และที่สำคัญอย่าเสียดาย แต่ก่อนต้องกินให้เรียบ ไม่เคยเหลือ เกลี้ยงจนไม่รู้ว่านี่กินอะไรมาก่อนนะ ตอนนี้ถ้ารู้ตัวว่าอิ่มหรือกินมากไปไม่ไหวก็จะพอค่ะ ความเสียดายเป็นบ่อเกิดของความอ้วน แล้วก็จากที่เคยชอบกินขนมจุบจิบ น้ำอัดลม ก็กินน้อยลงค่ะ แต่ไม่ใช่ไม่กินเลย คงต้องกินบ้างสนองความอยากของปาก 555555555 อาหารที่กินจะไม่เน้นแป้งค่ะ จะพยายามกินแป้งให้ไม่มากเกินไป เพราะมันจะไปกลายเป็นน้ำตาลต่ออีก อย่าเน้นของมัน ไก่ทอดเอย หมูทอดเอย มันหมูเอย หนังไก่เอย ละได้จะดีมากๆ เลย แต่ไม่ใช่ว่าไขมันไม่ดีนะคะ ไขมันจะเป็นตัวสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกายค่ะ แต่แค่อย่ากินเข้าไปเยอะๆ จากที่จะช่วยจะกลายเป็นโทษมากกว่า อิอิ
การควบคุมอาหารอย่างเดียวอาจไม่พอค่ะ ตอนแรกน้ำหนักอาจจะลดเพราะเรามีน้ำหนักตัวมาก แต่พอสักพักอาจจะไม่พอ ต้องออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย ตอนนั้นกัญเลือกที่จะออกกำลังกายที่บ้านค่ะ ไม่กล้าออกที่อื่นเลย เขินอาย เหนียมมาก 555555555 ก็เลือกเต้นแอโรบิกในยูทูบเอา ทุกวันนี้ก็ยังมีออกตามยูทูบนะถ้าไม่ได้ไปออกกำลังกายที่อื่น แต่อาจจะเปลี่ยนเป็นคลิปอื่นบ้างก็ได้เราจะได้ไม่เบื่อ แล้วก็ทำให้ร่างกายเราไม่ชินกับการออกกำลังกายที่เหมือนเดิมซ้ำๆ บ่อยๆ ด้วย ว่ายน้ำก็เป็นทางเลือกที่ดีมากๆ นะคะ สำหรับคนที่มีน้ำหนักมาก การว่ายน้ำทำให้เราไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บด้วย เพราะเราจะมีน้ำคอยพยุงค่ะ ข้อขา ข้อเข่าก็จะถูกกระแทกน้อยกว่าการวิ่งหรือกีฬาอื่นๆ
เอาล่ะ มาดูความเป็นมาและความเปลี่ยนแปลงกันเถอะ กัญเป็นเด็กอ้วนตั้งแต่น้อยจนเติบใหญ่ อวบอั๋นเนื้อดีตั้งแต่เข้าอนุบาล ตัวดำผมหยิกค่ะ แง แต่ในรูปอันนี้ช่วงประถมได้ หลังๆ ที่บ้านพาไปยืดผม เลยหายจากการเป็นเงาะ ทุกๆ ปีน้ำหนักจะขึ้นเป็นเรื่องปกติ อ้วนขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าจะหยุดพักเลย

กัญจะมีชื่อเรียกต่างๆ นานา ที่เพื่อนตั้งเป็นฉายาให้ ไอ้อ้วน ช้าง พะยูน ผีเสื้อสมุทร ถังแก๊ส พอง โอ่ง บลาๆตอนเวลาไปเที่ยวก็จะโดนล้อจากเด็กที่ไหนก็ไม่รู้ พูดอยู่นั่นน่ะ “อ้วนดำ อ้วนดำ” แต่ตอนนั้นเสียใจมากนะ ร้องไห้เลยอะ กลายเป็นเหมือนปมเหมือนกัน ทำให้ตอนเด็กเป็นคนไม่ค่อยมีความมั่นใจ ขี้กลัว แต่หลังจากนั้นก็ลืม ยังอิ่มหนำ เพิ่มพูน แฮปปี้กับการกินต่อเหมือนเดิม
หลังจากจบ ม.ต้น กัญก็ย้ายโรงเรียนมาเข้า ม.4 อีกโรงเรียนหนึ่งค่ะ เลยทำให้อ้วนหนักขึ้นไปอีก เพราะของกินแต่ละอย่างนี่ตัวอ้วนเลย พูดถึงแล้วอยากกินซูชิทอด

ตอนนี้แหละค่ะ ช่วง ม.5 นี่แหละ หนักถึง 97 กิโลกรัม อ้วนที่สุดของชีวิต ตอนนั้นจำได้เลยว่ามีโฆษณาของโรงพยาบาลหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ บอกว่าถ้าหนัก 100 กิโลกรัม จะตรวจเบาหวานฟรีไอ้เราก็ไม่ได้อะไรเลย ยังบอกแม่เดี๋ยวหนูเพิ่มน้ำหนักให้ 100 กิโลกรัมดีกว่า จะได้ตรวจเบาหวานฟรี จำได้แม่นเลย!!









