นายกฯกำชับ "ไอซีที" ไล่ล่ากลุ่มแฮกเกอร์ป่วนเว็บไซต์หน่วยงานรัฐ หลัง "กสท." โดนมือดีล้วงข้อมูล ย้ำทุกหน่วยต้องดูแลฐานข้อมูลให้ดี "รมว.ไอซีที" เชื่อไม่เกี่ยวที่กองทัพตั้งศูนย์ไซเบอร์
เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า นายอุตตม สาวนายน รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มแฮกเกอร์ ปล่อยฐานข้อมูลลูกค้าบริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ติดตามกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่จะคุกคามเว็บไซด์ต่างๆ ซึ่งได้มีการประสานกับทุกหน่วยงานระมัดระวังดูแลฐานข้อมูลต่างๆ ให้ดี ขณะเดียวกันต้องให้บริการประชาชนให้ได้
นายอุตตม กล่าวยืนยันว่า ประชาชนสามารถมั่นใจในการดูแลข้อมูลของประชาชนได้ ซึ่งระบบก็ยังทันสมัย และขอให้ประชาชนพิจารณาข้อมูลที่มีการสื่อสารผ่านเว็บไซด์ต่างๆ อย่างระมัดระวัง เพราะบางครั้งก็มีการแอบอ้างข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งในส่วนของ กสท. ทางไอซีทีได้สอบถามไปแล้วพบว่า ไม่ใช่ข้อมูลจริงของ กสท. ทั้งนี้เชื่อว่า การกระทำของกลุ่มแฮกเกอร์ ไม่เกี่ยวข้องกับการตั้ง "ศูนย์ไซเบอร์" ของกองทัพ อย่างไรก็ตาม กระทรวงไอซีทีมีหน้าที่ในการป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ไหนก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นายอุตตม เดินทางมาถึงลานพระบรมรูปทรงม้า ได้รายงานสถานการณ์การแฮกข้อมูลต่อพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านไอซีที โดยมีนายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมสนทนาด้วย พร้อมนำภาพการแฮกข้อมูลในโทรศัพท์มือถือส่งให้กับพล.อ.อ.ประจินและนายอุตตมดู พร้อมระบุว่า เป็นเรื่องที่น่าห่วง เพราะเป็นการโจมตีข้อมูลภาครัฐและทำกันเป็นขบวนการมีเครือข่าย ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นการวางพวงมาลาสักการะรัชกาลที่ 5 แล้ว นายอุตตมก็ได้รายงานสถานการณ์ดังกล่าวแก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้รับทราบอีกด้วย
ต่อมาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้ ส่วนมาตรการรับมือ มีการเตรียมการอยู่แล้ว โดยกระทรวงไอซีทีเป็นผู้ดูแล ตนเชื่อว่าไม่มีปัญหา ส่วนทหารก็ดูแลในส่วนของทหาร การปฏิบัติงานด้านไซเบอร์ของกองทัพ มีพล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้ดูแลในภาพรวม และชี้แจงแล้วในภาพรวมไปแล้ว
ด้านพล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวสั้นๆว่า ยืนยันการทำงานของกองทัพไทยในด้านไซเบอร์มุ่งเน้นดูแลทางด้านการทหารเท่านั้น
