ระแวงเมียรักสนิทสนมหลานเกินงาม "เสี่ยอู่เคาะพ่นสี" โกรธคว้าปืนจ่อยิงดับ ก่อนยิงตัวตายตามเพื่อหนีความผิด
เมื่อวันที่ 23 ต.ค. พ.ต.ท.กำเหนิด ประสพผล พนักงานสอบสวนสภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต ที่อู่ช่างเพ็ญ เคาะพ่นสี เลขที่ 73 หมู่ 4 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชัชพลสมแก้ว ผกก. พ.ต.ท.กฤษณรักษ์วงศ์งาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พงษ์สันต์ ชัญพันธ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.ประหยัดอินทนาศักดิ์ สว.สส. กำลังฝ่ายสืบสวน แพทย์เวร รพ.บางสะพาน และมูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรม ที่เกิดเหตุเป็นอู่ซ่อมเคาะพ่นสีพบศพนายวิระศักดิ์ บุญล้อม อายุ 39 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่ศีรษะ 2 นัด และลำตัวอีก 3 นัด และนายบำเพ็ญ คุระเอียด อายุ 46 ปี เจ้าของอู่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่ขมับขวาทะลุซ้าย 1 นัด ข้างศพนายบำเพ็ญมีปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่
จากการสอบสวน น.ส.มานะ ศุภางค์พุทธสร อายุ 40 ปี ให้การว่า ตนเป็นภรรยานายบำเพ็ญ ซึ่งเป็นเจ้าของอู่เคาะพ่นสี ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมาตนพร้อมสามี และนายวิระศักดิ์ ซึ่งเป็นหลานชายของสามีที่มาทำงานเป็นช่างเคาะพ่นสีได้ประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา พร้อมลูกน้องที่อู่รวม 4 คน ตั้งวงดื่มสุราจนเมาได้ที่แล้วเกิดมีปากเสียงกัน เนื่องจากสามีเกิดความหวาดระแวงเข้าใจผิดคิดตนกับนายวิระศักดิ์หลานชายแอบเป็นกิ๊กกัน เพราะได้ยินคนอื่นพูดว่าตนกับหลานชายสนิทสนมกันมาก ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด และทั้งคู่สามารถพูดคุย และทำความเข้าใจกันได้ ต่างคนจึงต่างแยกย้ายกันเข้านอน กระทั่งช่วงเช้าหลังจากเปิดอู่ตามปกติ คาดว่าสามีคงยังโกรธเดินไปคว้าปืนในบ้านออกมาจ่อยิงนายวิระศักดิ์จนเสียชีวิต ก่อนยิงตัวตายตาม
พ.ต.อ.ชัชพล กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่าคนตายทั้งคู่เป็นอาหลานกัน ทั้งสองคนมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง คาดว่าน่าจะเกิดความเครียดเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ประกอบกับภาระค่าใช้จ่ายภายในบ้านที่ค่อนข้างสูง บวกกับมีคนรู้จักมาบอกว่าหลานชายดูจะสนิทสนมกับภรรยาผู้ตายมากเกินไป ทำให้นายบำเพ็ญเกิดความระแวงบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สอบหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.
